Cross-Border ไทย-มาเลย์ ความร่วมมือการค้าออนไลน์เต็มรูปแบบ ดันขึ้นแนวหน้าศูนย์การค้าออนไลน์อาเซียน

Cross-Border ไทย-มาเลย์ ความร่วมมือการค้าออนไลน์เต็มรูปแบบ ดันขึ้นแนวหน้าศูนย์การค้าออนไลน์อาเซียน

  ผมลงมือทำแล้วครับสำหรับก้าวแรกในการรับมือสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศที่เขายกทัพบุกเข้ามาตีตลาดบ้านเรา อย่างที่ผมเคยให้คำแนะนำในเรื่องการรับมือไปในหลายๆสื่อว่าเราต้องผลักดันให้เกิดการส่งสินค้าออกไปนอกประเทศหรือทำ Cross-Border ให้ได้โดยผ่านช่องทางออนไลน์หรือมาร์เก็ตเพลสของแต่ละประเทศ

ผมและ TARAD.com รวมถึง Startup แถวหน้าของไทยอีก 2 บริษัทได้ช่วยกันเปิดประตูออกไปเพื่อนำทางให้กับธุรกิจอื่นๆ แล้วนะครับ ประเทศแรกที่พวกผมตะลุยเข้าไปได้ก็คือมาเลเซีย ประตูที่เราได้ช่วยกันเปิดจนสำเร็จในครั้งนี้ทำให้เกิดการลงนามความร่วมมือทางการค้าออนไลน์ระหว่างสองประเทศและลงทุนขยายธุรกิจไทยด้านออนไลน์ไปยังมาเลเซีย โดยทาง TARAD.com ได้ขยายช่องทางเข้าไปในเว็บไซต์ของมาเลเซีย รวมถึงการร่วมลงทุนของบริษัท SHIPPOP ผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางออนไลน์ และ Siam Outlet ผู้ให้บริการการจัดเก็บและส่งสินค้า สองบริษัทสตาร์อัพของไทยได้ขยายช่องทางบริการไปยังมาเลเซียเช่นเดียวกัน ในครั้งนี้เราได้ตัวแทนจาก Malaysia Digital Economy Corporation (MDEC) หน่วยงานที่มีหน้าที่ผลักดันเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศมาเลเซีย และกระทรวงพาณิชย์ของไทยเป็นพยานในการลงนามครั้งนี้ด้วย

       การลงนามความร่วมมือกับรัฐบาลมาเลย์เซียครั้งนี้มีโครงการเกิดขึ้นถึง 3 โครงการคือ

  1. ความร่วมมือTARAD.com เว็บไซต์การค้าออนไลน์ของไทยกับ SiteGiant ผู้ให้บริการการค้าออนไลน์ของมาเลย์เซียเพื่อเชื่อมต่อการค้าออนไลน์ระหว่างกัน โดยสามารถนำสินค้าจากไทยขายไปยังมาเลเซียและมาเลเซียขายมายังประเทศไทยผ่านช่องทางออนไลน์
  2. การร่วมลงทุนของSHIPPOP มาเลเซีย (www.Shippop.com.my) บริษัทผู้ให้บริการขนส่งทางออนไลน์ในมาเลเซียโดยเป็นการร่วมลงทุนของบริษัท SHIPPOP ประเทศไทย และบริษัท Commerce.asia ของมาเลเซียซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการ E-Commerce ของมาเลเซีย
  3. การลงทุนใน LetMeStore มาเลเซีย (www.letmestore.com) บริษัทด้านการจัดเก็บสินค้าและจัดส่งสินค้า (Fulfilment) โดยเป็นการลงทุนของบริษัท Siam Outlet ประเทศไทย

ความร่วมมือครั้งนี้จะทำให้ผู้ประกอบการของทั้งสองประเทศสามารถขยายช่องทางการค้าระหว่างกันผ่านออนไลน์ได้มากขึ้น นับว่าเป็นการผลักดันของภาคธุรกิจเอกชนที่ต้องการเห็นความร่วมมือระหว่างประเทศที่ประสบความสำเร็จ ถือเป็นความร่วมมือในระดับอาเซียนที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจน โดยความสำเร็จครั้งนี้เป็นการร่วมมือกับบริษัท Commerce.asia ที่ต่างหวังที่จะผลักดันไทยและมาเลเซียขึ้นเป็นแนวหน้าศูนย์การค้าออนไลน์อาเซียน

เบื้องหลังความสำเร็จในครั้งนี้ยังมี Startup ของไทย 2 บริษัทที่ประสบความสำเร็จโดยฝีมือการบริหารของคนรุ่นใหม่ที่สามารถขยายธุรกิจออกไปนอกประเทศได้อย่างรวดเร็ว เป็นการทำธุรกิจรูปแบบใหม่ที่เติบโตรวดเร็วถือตัวอย่างที่ดี โดยไม่ได้มองแค่ตลาดในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังมองข้ามไปถึงตลาดในต่างประเทศ ทั้งคู่เน้นการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีเป็นหลักในการสร้างและขับเคลื่อนธุรกิจจนประสบความสำเร็จ และนับว่าเป็น Startup แถวหน้าของไทยที่เป็นตัวอย่างให้แก่ธุรกิจอื่นเดินตามได้ เป็นการเปิดประตูสู่ธุรกิจ cross-border ที่จะมีเพิ่มมากขึ้นอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้

หลายคนคงจะเคยได้ยินมาบ้างเกี่ยวกับบริษัทที่มีทีมงานเด็กรุ่นใหม่เพียง 15 คนที่ช่วยกันสร้างธุรกิจจนเติบโตได้อย่างรวดเร็วและเป็น Startup แถวหน้าของไทยด้วย บริษัท SHIPPOP สามารถทำกำไรแม้เปิดธุรกิจมาเพียงแค่ปีกว่า และที่สำคัญคือสามารถขยายธุรกิจออกไปต่างประเทศได้แล้ว SHIPPOP มาเลเซียนั้นเปิดให้บริการมาตั้งแต่เมื่อปลายปี 2560 โดยสามารถเชื่อมต่อกับระบบขนส่งหลักภายในประเทศมาเลเซียได้หมดแล้ว มียอดผู้ใช้บริการที่เติบโตต่อเนื่องและรวดเร็ว แม้วันนี้อาจยังให้บริการเพียงแค่บริษัทที่อยู่ในประเทศมาเลเซียเท่านั้น แต่อีกไม่นานจะเชื่อมต่อเข้ากับระบบขนส่งของประเทศไทยงแน่นอน โดยทีมของประเทศไทยจะเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีหลักให้ SHIPPOP มาเลเซีย

        Siam Outlet บริษัทที่ทำเกี่ยวกับคลังสินค้าและโลจิสติกส์สำหรับองค์กรธุรกิจและร้านค้าออนไลน์แบบครบวงจรของไทย เป็น Startup ที่สามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็วอีกเช่นกัน เพราะเพียงแค่ 2 ปีก็สามารถนำเทคโนโลยีของตนขยายสู่ารลงทุนออกไปนอกประเทศได้แล้ว โดยการลงทุนใน LetMeStore ผู้ให้บริการเกี่ยวกับคลังสินค้าและโลจิสติกส์ของมาเลเซียซึ่งเป็นธุรกิจในลักษณะเดียวกัน โดยครั้งนี้ได้นำเอาเทคโนโลยีการบริหารคลังสินค้าและองค์ความรู้ที่ทาง Siam Outlet ได้พัฒนาขึ้นมาเองมาถ่ายทอดให้กับทางมาเลเซีย เทคโนโลยีนี้พัฒนาจนมีความก้าวหน้าและสามารถตอบโจทย์การทำธุรกิจของมาเลเซียได้อย่างดีเยี่ยม

หน้าที่ของผมยังไม่แล้วเสร็จครับ การทำงานในครั้งยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดจริงๆ ก้าวต่อจากนี้คงต้องมองไกลไปถึงประเทศในอาเซียนด้วยกันก่อน ตลาดออนไลน์เราไม่สามารถที่จะขายเพียงแต่ในประเทศได้อีกต่อไปแล้ว จำเป็นต้องส่งไปต่างประเทศให้ได้ ต้องเตรียมการในเรื่องของการเชื่อมต่อ การเจรจากับหน่วยงานของแต่ละประเทศ และเตรียมความพร้อมเรื่องการจัดเก็บสินค้า การขนส่ง การจัดการ และอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง การจะส่งออกไปต่างประเทศคงไม่สามารถจัดการด้วยตัวเองได้ทั้งหมด เพราะมีความยุ่งยากเยอะ ผมในฐานะที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงจึงพยายามเชื่อมต่อทุกอย่างไว้ให้ หากใครมีความสงสัยใคร่รู้ลองเข้าไปดูที่ TARAD.com ก่อนได้ เราได้เชื่อมต่อและเตรียมความพร้อมไว้แล้ว คุณอาจแค่นำสินค้ามาฝากไว้ในเว็บไซต์ก็สามารถส่งออกไปขายต่างประเทศได้ เราลดขั้นตอนต่างๆ ให้น้อยลงเพราะอยากให้คนไทยได้ส่งสินค้าออกไปขายได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น เมื่อต่างชาติบุกเข้ามาตีตลาดบ้านเรา จากนี้ไปเราต้องมุ่งไปที่การส่งออกไปนอกบ้านให้ได้ด้วยเช่นกัน เพราะนั่นคือทางรอดของเราครับ