PALINI Mix and Match อย่างไรให้เป็นแบรนด์เสื้อผ้า ที่คนคูลๆ ต้องเลือก

 

PALINIMix and Match อย่างไรให้เป็นแบรนด์เสื้อผ้า ที่คนคูลๆ ต้องเลือก

คิดต่างสร้างจุดขายมีเรื่องราวของแบรนด์ที่สามารถต่อยอดความคิด เกิดเป็นธุรกิจที่มีเอกลักษณ์เฉพาะด้าน มานำเสนอให้กับผู้อ่านมาแล้วมากมาย และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่อยากจะ Present เพราะถือได้ว่าเป็นแบรนด์ที่ก้าวสู่ความสำเร็จขั้นแรกของโลกธุรกิจอย่างเต็มตัว

คุณเบนซ์ – ปัณณรุจน์ เนติพีระพงศ์ Creative Director และคุณอุ๋ย-นภาวรรณ พิมวัน Design Director สองเจ้าของผู้สร้างแบรนด์ PALINI ได้รวบรวมประสบการณ์และดึงแนวคิด ผลิตออกมาเป็นแบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับสุดคูล ในยุคนี้ไม่ว่าใครก็หันมาชอบเสื้อผ้าสไตล์คลาสสิค อาจเป็นเพราะเสน่ห์ที่ไม่อาจลบเลือน แต่ถึงจะเห็นเสื้อผ้าแนวนี้ได้ทั่วไปก็เถอะ ลองดูแบรนด์นี้กันหน่อย เพราะสินค้าแต่ละชิ้น หมวกแต่ละใบ เสื้อผ้าแต่ละตัวผ่านการคัดสรรมาเป็นอย่างดี ฟังดูเหมือนจะเรียบง่าย มันคงง่ายสำหรับคนที่คิดและตั้งใจมันเท่านั้น จริงไหม?

PALINI คืออะไร

ตอนเริ่มคิดเรื่องชื่อแบรนด์ ก็เขียนไว้หลายชื่อมาก อ่านออกเสียงสวยๆทั้งนั้นเลย แต่พอวันรุ่งขึ้น เรากลับมาดูชื่อเหล่านั้นอีกรอบ ก็ไม่ได้รู้สึกชอบซะแล้ว คิดว่าเราต้องหาคำหนึ่งคำที่มีความหมายกับเราจริงๆ เป็นพลังในการทำงาน เลยนึกถึงครอบครัว คุณแม่ชื่อ ปาลิณีย์ พอมาเขียนเป็นภาษาอังกฤษก็สะกดสวยดี รู้สึกว่าเป็นศรัทธาที่อยู่ติดตัวกับเราไปได้ตลอด

ใช้หลักอะไรในการออกแบบแต่ละครั้ง

ดีไซน์คอนเซ็ปต์ “Mixed Culture” การผสมผสานเรื่องราวของวัฒนธรรมจะมีปะปนอยู่ในงานดีไซน์ทุกชิ้นของแบรนด์ เหมือนเป็น Gimmick ที่ซ่อนอยู่ในภาพใหญ่อีกที ผ่านการเล่าเรื่องของเสื้อผ้าในแต่ละซีรีย์ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะเน้นในเรื่องของวัสดุท้องถิ่น เนื้อผ้าไทย มาปรับใช้ให้ร่วมสมัยมากขึ้น เรามักจะคิดงานได้จากสิ่งที่เราไปพบเจอ ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจ บางครั้งไปเจอหนังสือโครงกระดูกสัตว์ ไปเที่ยวนั่งเรือเห็นน้ำคลองขุ่นๆ ก็ไปคิดโน่นคิดนี่มาได้ หรือมีอยู่วันหนึ่งตากผ้าอยู่ เห็นไม้แขวนเสื้อพลาสติกสีฟ้า มันเข้ากับเสื้อสีดำที่เราแขวนอยู่ คู่สีมันแปลกดี ก็เอาไปแปลงเป็นเรื่องของคู่สีตอนออกแบบ เราคิดว่ามันอยู่ที่การพลิกแพลงกับสิ่งที่เราได้เห็นซะมากกว่า

ต้องยอมรับว่าคอนเซปต์ของแบรนด์ PALINI ไม่ได้สามารถตอบโจทย์ทุกคนได้ เราจึงทำการบ้านในเรื่องของ Psychoanalysis มากกว่าเรื่องของ Demographic เรายึดในเรื่องของความรู้สึกนึกคิด ปัจเจกความชอบส่วนตัวของแต่ละบุคคลเป็นหลัก กลุ่มลูกค้าเลยยังไม่ได้เป็นกลุ่มที่ใหญ่และหลากหลายมากนัก แต่ก็เป็นกระบอกเสียงที่ดีในการบอกต่อกับกลุ่มเพื่อนของเขาที่มีรสนิยมใกล้เคียงกัน

ส่วนเรื่องวิธีการหาวัตถุดิบ เราแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบ คือ ส่วนผ้าที่เป็นงานวินเทจ หรือของ re-use ที่เราต้องไปเลือกสินค้าด้วยตัวเองทุกชิ้น อาจใช้เวลามากหน่อย แต่ตรงนี้เป็นแกนสำคัญที่จะสามารถตอบโจทย์จริตทั้งแบรนด์เราและลูกค้าได้มากที่สุด ส่วนที่สองเป็นลักษณะการทำงานกับโรงงาน ที่มักจะมีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน อย่างเราจะให้น้ำหนักในเรื่องของฟังก์ชั่นการนำไปใช้ ซึ่งโรงงานก็จะ Support ในเรื่องของ Innovation นวัตกรรมใหม่ๆ มาให้กับเราเช่นกัน

ตอนนี้ PALINI มีฝากขายสินค้าตามช็อปและห้างสรรพสินค้าวางจำหน่ายทั้งหมด 38 สาขาในประเทศ ซึ่งที่สาขามันกระจายไปได้เยอะ เพราะเราทำสินค้าค่อนข้างหลากหลาย คือ มีเครื่องประดับ ด้วยเลยไปสอดแทรกกับช็อปที่เขาขายเสื้อผ้าได้เช่นกัน ซึ่งเราก็จะทำสินค้า Exclusive ให้กับแต่ละช็อป เพื่อที่จะให้เกิดการทำงานร่วมกัน ทั้งในการโปรโมทสินค้า การสร้างจุดเด่น และการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าของสาขานั้นๆ

มีหลักในการบริหารธุรกิจอย่างไร

แทบจะไม่ได้มีหลักเกณฑ์อะไรในการบริหารมากนัก ดูแลกันไปแบบครอบครัว ทำให้ชีวิตของทีมงานบันเทิงได้ทุกวันเป็นอันดี มีบรรยากาศที่เหมาะสมในการทำงาน เราไม่มีการตอกบัตรเข้าออฟฟิศหลายอย่างที่เราทำกันอยู่ค่อนข้าง Flexible มากๆ อย่างทีมงานของเรา ก็ให้มาทำงานแค่ 3 วัน ต่อสัปดาห์ ที่เหลือเอาเวลาไปรับจ๊อบ หรือเที่ยวก็ได้ สถานที่ทำงานเราก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ คาเฟ่บ้าง ที่บ้านบ้าง หรือแม้แต่สวนสาธารณะทำงานเสร็จก็วิ่งจ๊อกกิ้งกันต่อ อย่าไปดูแลแค่เรื่องกระเป๋าสตางค์เขา แต่ให้ดูแลเรื่องชีวิตจิตใจเขาด้วย แต่ที่ทำได้เพราะเราวางแผนไว้แล้วว่าทีมงานจะมีไม่เยอะ แต่เน้นคนที่มีทัศนคติดี เข้ากับเราได้จริงๆ ให้เขาตื่นมาแล้วมีความสุขอยากมาทำงานกับเราดีกว่า

ทัศนคติในการทำแบรนด์เป็นเรื่องสำคัญ อย่างแบรนด์ PALINI เราเน้นในเรื่องภายในก่อน ทั้งตัวเรา, ทีมงาน หรือบรรยากาศการทำงาน ต้องมีความสุขก่อน พอเรื่องนี้ดี มันก็จะส่งผลขนานเป็น Message ไปสู่ลูกค้าไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบผลิตภัณฑ์ หรืออะไรก็ตาม

อยากฝากอะไรถึงผู้ประกอบการ SME ไหม

เรื่องของปัญหาที่หลายคนโฟกัสคือ ‘คู่แข่ง’ แต่เราแทบไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้เลย เชื่อว่าธุรกิจ SME หลายๆ แบรนด์เขาก็มีวิถีการทำงานในรูปแบบของตัวเองกันทั้งนั้น ทุกวันนี้เราจับมือกับแบรนด์หมวกหลายแบรนด์ ที่ ‘คนข้างนอก’ ไม่เชื่อว่าเราจะสามารถอยู่ร่วมกันได้ เช่น บางช็อปที่แบรนด์ PALINI มีส่วนร่วมในการ Operate เราก็ชวนแบรนด์หมวกมาอยู่ร่วมในพื้นที่เดียวกันถึง 5 แบรนด์ หรือแม้แต่โปรเจกต์การ Collaboration แบรนด์หมวกด้วยกันเอง เราก็ทำมาแล้ว เราคิดว่าเหนือกว่าเรื่องของโปรดักส์ คุณต้องมีทัศนคติการทำงานที่ดีก่อน แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมองโลกสวยอย่างเดียวนะ บางคนเจตนาลอกเลียนแบบ โดยไม่มีระบบความคิดอะไรเลย นั่นก็อีกเรื่องกรณีกัน

 

สุดท้ายฝาก PALINI ให้กับผู้อ่านกันหน่อย

ช่วงไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ ทางเราจะมีโปรเจกต์สนุกๆ ร่วมทำกับศิลปิน และแบรนด์เสื้อผ้าไทย สามารถติดตามข้อมูลและสินค้าของเราได้ที่   Line : palini_bangkok,  : www.facebook.com/palinibangkok  : 089-824-7689  : www.palinibangkok.com