เฟย – วิบลยา, แบงค์ – นันทิพัฒน์, เพชร – ศุภชัย3 CEO วัยทีน ใช้เวลาครึ่งปีวิจัยมาส์กชาร์โคลบุกตลาดความงาม พร้อมผุดแนวคิดการทำธุรกิจ ‘Allya’ แบบ New Gen
“ตอนแรกที่เราเริ่มทำธุรกิจนี้เราก็คิดว่า สินค้าของแบรนด์เรามันจะสู้แบรนด์อื่นได้หรือเปล่า เพราะว่าราคาสินค้าของเราก็แพงกว่าแบรนด์อื่นที่ทำสินค้าแบบเดียวกันอยู่มากแต่มีปัจจัยอยู่สองข้อที่เชื่อว่าจะทำให้สินค้าของเราสามารถขายได้ อย่างแรกคือ ทำให้สินค้าของเราเมื่อลูกค้าซื้อไปใช้แล้วทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลง อย่างที่สองคือ ทำให้สินค้าของเราแตกต่างจากแบรนด์อื่น ถ้าเราสามารถทำได้ทั้งสองข้อนี้ แบรนด์ของเราต้องประสบความสำเร็จแน่นอน ซึ่งราคาสินค้าแพงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย เพราะถึงราคาสินค้าจะแพง แต่ถ้าซื้อไปใช้แล้วทำให้เห็นผลได้จริงก็มีคนซื้ออยู่ดี“
ธุรกิจของเราเปิดตัวในช่วงเดือนสิงหาคม แต่ว่าเริ่มแรกเลยจริงๆ เราวิจัยผลิตภัณฑ์ตัวนี้ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมาถ้านับถึงปัจจุบันก็เป็นระยะเวลาไม่ถึงครึ่งปี คือตอนแรกเราเริ่มจากการหาคนที่มาติดต่อกับบริษัทจริงๆ เราไม่ได้เน้นรับตัวแทนเยอะ แบรนด์ของเราตัวแทนจำหน่ายหลักเพียง 6 คนทั่วประเทศ แล้ว 6 คนนี้ก็ไปหาลูกทีมต่อเอง โดยที่ตอนแรกเราผลิต 50,000 ซอง เรามีตัวแทนหลัก 6 คนก็แบ่งไปคนละเกือบหมื่นซอง พอรวมตัว 6 คนนี้มาเซ็นสัญญา ก็รอผลิตสินค้าเดือนครึ่ง แต่คือระยะเวลา 2 อาทิตย์หลังเซ็นสัญญาปรากฏว่ายอดจำหน่ายเกิน 50,000 ซองไปแล้ว เราก็เลยสั่งผลิตเพิ่ม จากตอนแรก 3 เดือนผลิต 50,000 ซอง จนปัจจุบันตอนนี้มียอดผลิตรวม 850,000 ซองแล้ว
จุดเด่นของมาส์กชาร์โคล Allya คือผลิตภัณฑ์ของเรามีนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า ‘encapsulation’ (เอนแคปซูเลชัน) ก็คือมาส์กชาร์โคลซึ่งสินค้าทุกตัวทีมีคำว่าชาร์โคล ปกติแล้วมันจะเป็นสีถ่าน แต่ชาร์โคลตัวนี้มันสีขาว เพราะว่าเราเอาตัวถ่านเข้าไปอยู่ในแคปซูลเล็กๆ ที่เรียกว่า เอนแคปซูเลชัน โดยที่ทุกคนก็น่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ถ่านเป็นสิ่งที่ดูดซับทั้งอากาศ ทั้งสิ่งสกปรก ฉะนั้นถ้าตัวถ่านโดนอากาศผลิตภัณฑ์มาส์กหน้าเสร็จแล้ว ตัวมาส์กจะทำปฎิกิริยาแตกตัว และจะเปลี่ยนสี ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งจุดขายที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น และผลิตภัณฑ์ต่อไปของพวกเราก็จะนำนวัตกรรมใหม่ๆ ที่น่าสนใจอย่างนี้มาใช้เหมือนกัน
สำหรับบางคนเห็นชื่อแบรนด์กับโลโก้ของเราอาจจะสงสัยว่าทำไมถึงต้องชื่อว่า Allya และทำไมโลโก้จะต้องเป็นรูปหมาป่า คำว่า Allya มาจากคำว่า Ally ที่แปลว่าพันธมิตร หรือให้มันอ่านแล้วออกเสียงว่า อะไรอะ ได้ หรืออ่านว่า ออ–ย่า ก็ได้ เหมือนกับเป็นการเล่นคำเพื่อให้ชื่อแบรนด์ของเรามีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น ส่วนที่ใช้โลโก้หมาป่า ก็เพราะว่าหมาป่ามีนิสัยดุร้าย กล้าหาญ เด็ดเดี่ยว แต่เวลาออกล่าจะไปกันเป็นฝูง ก็เปรียบแบรนด์ของเราเป็นเหมือนกับฝูงหมาป่า ที่ตัวแทนจำหน่ายของแบรนด์เราทุกคนจะมาอยู่รวมกัน และประสบความสำเร็จไปพร้อมกันในชื่อของ Allya
โจทย์ในการทำธุรกิจของเราคือ เราจะทำแบบไต่ระดับไป ถึงแม้ว่ากลยุทธ์ที่แบรนด์อื่นใช้นั้น จะทำให้เห็นกำไรเยอะ และมีตัวแทนจำหน่ายมาสมัครเยอะก็จริง แต่ก็มีออกไปเยอะเหมือนกัน แต่พอเราทำแบบค่อยเป็นค่อยไป ก็เหมือนกับเป็นการคัดกรองตัวแทนจำหน่ายไปในตัวด้วย สำหรับเป้าหมายในอนาคตของแบรนด์ Allya เราบอกตัวแทนไว้อยู่แล้ว ว่าทุกๆ ปีเราจะออกสินค้าใหม่ ปีละหนึ่งตัว พวกเราจะเน้นทำให้สามารถใช้เข้าคู่กันได้ อย่างเช่น ตอนนี้ แบรนด์ของเรามีผลิตภัณฑ์อยู่ 1 ตัว คือ มาส์กชาร์โคลซึ่งปีถัดไปเราก็มีเป้าหมายไว้ว่าจะทำผลิตภัณฑ์ที่มันสามารถใช้ร่วมกับมาส์กชาร์โคลได้ พอปีที่3-4 ก็จะออกสินค้ามาแบบใช้คู่กันแต่เป็นอีกไลน์ นี่คือแผนธุรกิจระยะยาวที่พวกเราได้วางเอาไว้
สุดยอดกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจ Allya
คุณเพชร : ถ้าถามว่าทำไมต้องเป็นมาส์กซอง ทำไมไม่เป็นแบบกระปุก หรือแบบอื่น ซึ่งพวกเราก็ศึกษามาว่า ทุกวันนี้คนทั่วไปเน้นชอบสินค้าที่เป็นแบบซองมากกว่า แต่ในตอนแรกที่พวกเราได้ปรึกษากัน ถ้ามาส์กไม่เป็นแผ่น ก็จะทำเป็นแบบมาส์กชีสไปเลย แต่เราก็ลองไปสำรวจตลาดดู ปรากฏว่าก็ไม่มีแบรนด์ไหนทำเลย แต่ถ้าจะให้เราทำเป็นมาส์กทั่วไปแต่อยู่ในรูปแบบของกระปุกที่เน้นปริมาณเยอะก็จะดูแปลก และทำให้คนซื้อซ้ำน้อยด้วย ฉะนั้นพวกเราเลยลงความเห็นกันว่า ทำแบบซองในปริมาณที่น้อย แต่เน้นที่คุณภาพดีกว่า เพื่อที่จะทำให้เกิดการซื้อซ้ำจากลูกค้ามากขึ้น
3 CEO ฝากแนวคิดถึงผู้ประกอบการธุรกิจ SME ไทย
คุณเพชร : มีข้อคิดข้อหนึ่งที่ใช้มาตลอดชีวิต ก็คือ “ตั้งใจอย่างเดียวมันไม่พอ ต้องเข้าใจด้วย” ต่อให้ตั้งใจแค่ไหน แต่ถ้าไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณจะทำ ทำให้ตายก็ได้แค่ศูนย์ พอเราตั้งใจไป ทำได้จริง แต่สุดท้ายมันก็ดับอยู่ที่เดิม ถ้าเราทำไปด้วยความไม่เข้าใจ เพราะฉะนั้นเวลาทำธุรกิจนอกจากตั้งใจแล้ว ต้องเข้าใจในสิ่งที่ทำด้วย เราถึงจะประสบความสำเร็จในสิ่งที่ทำ
คุณแบงค์ : ทุกอย่างเริ่มต้นที่ Why ทำไมคุณถึงทำ ทำไปเพื่ออะไร ถ้าถามว่าคนทำธุรกิจต้องมีอะไรบ้าง ตอบได้เยอะมาก แต่ถ้าถามว่าทำยังไงให้รุ่ง ไม่เจ๊ง อย่างที่บอกก็คือต้องเข้าใจ และนอกจากจะต้องเข้าใจ คุณก็ต้องมีความอดทน ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องมีความอดทน เพราะทุกๆ ธุรกิจไม่มีอะไรที่ได้มาง่าย ถ้าคุณอดทนให้ผ่านปัญหาเหล่านั้นไป ผมเชื่อว่า ไม่ช้าก็เร็วธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จแน่นอนครับ
คุณเฟย : เวลาจะทำธุรกิจอะไร อย่าคิดอย่างเดียว ต้องทำด้วย บางคนบางทีก็พูดตลอด แต่ไม่ลงมือทำซักที เพราะฉะนั้น ถ้าไม่เดือดร้อนใคร คิดแล้วต้องทำเลย เหมือนกับว่า อย่าอยู่อย่างอยาก หาแก่นของธุรกิจของตัวเองให้เจอ เข้าใจกับมัน และทำมันให้เต็มที่ และสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้คือ จะต้องหมั่นหาความรู้ ศึกษาสิ่งใหม่ๆ และนำมาพัฒนาตัวเอง และธุรกิจของตัวเองอยู่สม่ำเสมอ ถ้าคุณทำได้ ไม่ว่าคุณจะทำอะไร หรือทำธุรกิจแบบไหน เฟยเชื่อว่าธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จได้แน่นอนค่ะ
ข้อมูลธุรกิจ
ชื่อธุรกิจ : “ALLYA”
รูปแบบธุรกิจ : รับตัวแทนจำหน่าย
Tel : 087-371-4433
fb : @Allyathailand
