ครอบครัว ‘ศุภวราพงษ์’ ขับเคลื่อนชีวิตด้วยความอยาก ‘อยากมี อยากทำ อยากเป็น’ สู้ศึกไลฟ์สไตล์ช้อป One Stop Shopping MUMUSO (มูมูโซ)

ครอบครัว ศุภวราพงษ์ขับเคลื่อนชีวิตด้วยความอยาก อยากมี อยากทำ อยากเป็นสู้ศึกไลฟ์สไตล์ช้อป One Stop Shopping MUMUSO (มูมูโซ) ชูจุดแข็งดีไซน์เกาหลี สู่เป้าหมายเงินทุนหมื่นล้าน

ครอบครัว ‘ศุภวราพงษ์’ ถือว่าเป็นโมเดลตัวอย่างของผู้ที่ริเริ่มอยากเป็นนักธุรกิจมืออาชีพ ด้วยการปลูกฝังให้รู้จักวางแผน รู้จักการบริหาร รู้จักการเป็นนักธุรกิจตั้งแต่เด็กแรงผลักดันให้ลูกๆ กลายเป็นนักธุรกิจในเวลาต่อมา สิ่งสำคัญไปกว่าคำว่าต้นทุนในการดำเนินธุรกิจนั้นก็คือการปลูกฝังแนวคิดคำว่า “เถ้าแก่” ทำให้ 2 ผู้บริหาร ‘คุณปกรณ์ และ คุณอลิสรา ศุภวราพงษ์’ เล็งเห็นโอกาสเม็ดเงินสะพัดในประเทศไทย ทั้ง 2 จึงขับเคลื่อนธุรกิจด้วยความ‘อยากมี อยากทำ อยากเป็น’ สู้ศึกไลฟ์สไตล์ช้อป One Stop Shopping MUMUSO (มูมูโซ) ชูชุดแข็งดีไซน์เกาหลี สู่เป้าหมายเงินทุนหมื่นล้าน

      หลังจากครอบครัวนี้ก้าวเข้าสู่โลกนักธุรกิจแบบเต็มตัว คุณปกรณ์ เริ่มลุยงานในธุรกิจของครอบครัวเป็นงานแรก พร้อมเก็บเกี่ยวและสั่งสมความรู้แบบครูพักลักจำ สามารถเริ่มรู้แนวทางการดำเนินงานทางธุรกิจในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป บริษัท แปซิฟิก คอสเมติก จำกัด ผู้นำเข้าผลิตภัณฑ์เวชสำอางจากเกาหลี ดร.จาร์ท ส่วนทางด้าน คุณอลิสรา เข้ามาดูแลธุรกิจ “SCHOOL FOOD” สคูลฟู้ด ร้านอาหารสไตล์โมเดิร์นเกาหลีที่เปิดให้บริการสาขาแรกในประเทศไทยของบริษัท วศุภ จำกัด ในตำแหน่งผู้จัดการฝ่ายการตลาด ซึ่งธุรกิจที่ผ่านมาประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงในวงการธุรกิจเป็นอย่างมาก

ล่าสุด…ยังได้เปิดตัวธุรกิจอีกหนึ่งแบรนด์น้องใหม่เข้ามาในไทยก็คือ MUMUSO (มูมูโซ) แบรนด์ “มูมูโซ” นั้นมาจากคำว่า มูกุงฮวา (Rose of Sharon) ดอกไม้แห่งความเป็นนิรันดร์ สัญลักษณ์ที่เป็นเสมือนตัวแทนของประเทศเกาหลี เริ่มก่อตั้งในปี 2014 ที่เซียงไฮ้ และได้ขยายสาขาสู่ต่างประเทศอย่างรวดเร็ว เช่น โซนอเมริกาใต้ รัสเซีย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเวียดนาม ปัจจุบันมี 600 สาขา ในกว่า 150 เมืองทั่วโลก

 

      ส่วนในประเทศไทยได้เข้ามาทำตลาดเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมานี้เอง เริ่มเปิดสาขาแรกที่ ‘เดอะมอลล์ โคราช’ ผู้ได้รับสิทธิ์บริหารก็คือ บริษัท มูมูโซ (ประเทศไทย) จำกัด แต่เดิมได้ทำธุรกิจอื่นๆ ทั้งเฟอร์นิเจอร์ ร้านอาหาร แต่ได้เดินทางไปเห็นร้าน MUMUSO จึงมีความสนใจที่จะนำเข้ามาในไทย สินค้ามีดีไซน์มินิมอลสไตล์เกาหลี ด้วย 3 หัวใจสำคัญของผลิตภัณฑ์ คือ คุณภาพ การออกแบบ และวัตถุดิบ มูมูโซไม่หยุดนิ่งต่อการสร้างสรรค์ พัฒนาสินค้า และบริการที่ดี พร้อมทั้งนำเสนอสินค้าในราคาที่ทุกคนเข้าถึงได้ นอกจากนี้ยังต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของสังคมและชุมชนตามหลักปรัชญาที่ว่า “Life starts with
MUMUSO”

 

      คุณปกรณ์ ศุภวราพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากลยุทธ์ กล่าวว่า “จริงๆ ที่จีนมีร้านค้าสไตล์แบบนี้เยอะรวมๆ แล้ว 20 กว่าแบรนด์ แต่ที่เลือก MUMUSO เพราะมีการเติบโตเร็ว เพิ่งทำตลาดเพียงแค่ไม่กี่ปีเท่านั้น และมีราคาจับต้องได้ถูกกว่าตลาด พอสนใจก็ได้ทำการพูดคุยกันประมาณครึ่งปี ซึ่งทางบริษัทแม่ก็สนใจตลาดประเทศไทยอยู่แล้ว พอมาทำตลาดก็มาปรับภาพลักษณ์ด้วยการสื่อสารว่าเป็นคอนเซ็ปต์เกาหลี เพราะด้วยทัศนคติของคนไทยที่มีต่อแบรนด์จีนไม่ค่อยดี แต่ก็ไม่ได้ปิดบังว่าไม่ใช่แบรนด์จีน จริงๆ ประเทศจีนตอนนี้ขึ้นชื่อเรื่องการพัฒนาสินค้า ทำให้มีสินค้าคุณภาพดี ราคาจับต้องได้”

 

 

      ร้าน MUMUSO ได้วางจุดยืนว่าเป็นไลฟ์ไสตล์ช้อป ซึ่งมีคู่แข่งโดยตรงก็คือ MINISO เพื่อนร่วมชาติเดียวกัน และแบรนด์ไทยอย่าง Moshi Moshi ร้านค้ากลุ่มนี้จะมีสินค้าหลายกลุ่ม ราคาที่หลากหลายขึ้นอยู่กับแบรนด์จะตั้งราคา จะคนละเซ็กเมนต์กับร้านราคาเดียวอย่าง Daiso, Komonoya, just buy, Arcova, โคตูยะ และ Can do ที่เป็นโมเดลร้าน 100 เยน หรือ 1 ดอลลลาร์ “เมื่อดูภาพรวมตลาดในกลุ่ม Specialty Store ที่รวมร้านค้าไลฟ์สไตล์ และร้านราคาเดียว ร้านกิฟท์ช้อฟในไทยตั้งแต่ปี 2017 มีการเติบโตถึง 23% หรือมีมูลค่า 46,000 ส่วนกลุ่มไลฟ์สไตล์ช้อปเติบโต 12% โดยร้านแบบไลฟ์สไตล์ช้อปเป็นเทรนด์ที่มาแรง เพราะเป็นเซ็กเมนต์ที่มาใหม่ มีสินค้าหลายแบบ ดีไซน์ที่เรียบง่าย ราคาที่แตกต่างกันขึ้นอยู่กับประเภทสินค้า ให้ความรู้สึกตื่นเต้นเวลาเลือกสินค้า เพราะที่ผ่านมาคนไทยคุ้นเคยกับร้านราคาเดียวมาตลอด เข้าไปเจอแต่สินค้าราคาเดียวกัน ดีไซน์ใกล้ๆ กัน”

“เรื่องราคาก็เป็นจุดขายอีกอย่างหนึ่งของร้านไลฟ์สไตล์ช้อป MUMUSO ตั้งราคาเริ่มต้นที่ 39 บาท ไปจนถึงพันกว่าบาท โดยที่ราคาที่ขายดีที่สุดจะอยุ่ที่ 69-100 บาท เป็นราคากลางๆ จับต้องได้ ปัจจุบันมีสินค้าทั้งหมด 3,000 รายการ ครอบคลุม 8 กลุ่ม ได้แก่ สินค้าเด็ก เสื้อผ้า ของใช้ในบ้าน ไอที กระเป๋า เครื่องเขียน สกินแคร์ และเครื่องสำอาง โดยที่กลุ่มสินค้าของใช้ในบ้านขายดีที่สุด มีสัดส่วนสินค้า 50% รองลงมาคือสินค้าความสวยความงาม พวกสกินแคร์ และเครื่องสำอาง ตอนนี้มีการใช้จ่ายเฉลี่ยต่อบิลอยู่ที่ 300 บาท”

 

“กลุ่มเป้าหมายมีอายุระหว่าง 15 – 50 ปี ตั้งแต่ระดับนักเรียน นักศึกษา และบุคคลทั่วไปในทุกสายอาชีพทั้งชายและหญิงที่มีความชื่นชอบสินค้าที่มีการออกแบบที่สวยงามและเรียบง่าย นักท่องเที่ยวและนักเดินทางที่ต้องการสินค้าสำหรับใช้ชีวิตประจำวัน โดยสินค้าทุกชิ้นได้ผ่านการคัดเลือก และถูกตรวจสอบทุกขั้นตอนการผลิตเพื่อให้ได้มาตรฐานการรับรองคุณภาพที่ตั้งไว้ จากการสำรวจตลาดในเมืองไทยนั้นพบว่าผู้บริโภคมีการจับจ่ายใช้สอยสินค้าที่ตอบสนองไลฟ์สไตล์มากขึ้น ไม่ยึดติดอยู่กับแบรนด์ แต่เลือกสินค้าที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับราคาที่จับจ่ายไป”

 

      “บริษัทฯ ได้ตั้งงบประมาณสำหรับการดำเนินธุรกิจในปีแรกนี้ที่ 150 ล้านบาท โดยจะเน้นไปที่กิจกรรมส่งเสริมการขายหน้าร้าน อาทิ กิจกรรมสำหรับการเปิดสาขาใหม่ ลุ้นรับสินค้าราคาพิเศษ การสมัครสมาชิกฟรีพร้อมรับแต้มสะสม ควบคู่ไปกับกิจกรรมผ่านโซเชียล มีเดีย ทั้งเฟซบุ๊คและอินสตาแกรมของมูมูโซ การทำสื่อโฆษณา ณ จุดขายต่างๆ การจัดกิจกรรมพิเศษในช่วงเทศกาล และการร่วมกับศูนย์การค้าในการจัดโปรโมชั่นพิเศษ เป็นต้น ซึ่งคาดว่าในปีแรกนี้จะสร้างยอดจำหน่ายได้ประมาณ 200 ล้านบาท”

 

      คุณอลิสรา ศุภวราพงษ์ กรรมการผู้จัดการ กล่าวเพิ่มเติมถึงธุรกิจมูมูโซว่า “ปัจจุบัน MUMUSO มีสาขารวม 7 สาขา เป็นสาขาที่บริหารเอง 6 สาขา ได้แก่ เดอะมอลล์ โคราช, สุพรรณบุรี, บางแสน ชลบุรี, สมุทรสาคร, อยุธยา และสยามสแควร์วัน กรุงเทพฯ มีร้านที่เป็นโมเดลแฟรนไชส์แห่งแรกที่พิษณุโลก จะสังเกตว่าในทั้ง 7 สาขามีเพียงสาขาเดียวที่อยู่ในกรุงเทพฯ เป็นกลยุทธ์ที่
แตกต่างจากแบรนด์อื่นที่ขยายสาขาในกรุงเทพฯ ก่อน แต่ MUMUSO เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง” เพราะต้องการเจาะตลาดต่างจังหวัด เพื่อการขยายแฟรนไชส์ในอนาคต”

       “การเลือกโลเกชั่นก็เป็นกลยุทธ์หลักเลือกที่จะเจาะตลาดต่างจังหวัดก่อน สาขาแรกเริ่มเปิดที่โคราช เพราะต้องการเรียนรู้พฤติกรรมของคนต่างจังหวัด คนหัวเมืองว่าเป็นอย่างไร ดูว่าจะทำตลาดต่อได้หรือไม่ รู้พฤติกรรมการเลือกสินค้า และได้รู้เซ็กเมนต์ของแต่ละกลุ่ม ซึ่งการเจาะตลาดต่างจังหวัดนี้ก็เพื่อการปูทางสู่การขยายธุรกิจในโมเดลแฟรนไชส์ ซึ่งโลเกชั่นที่เลือกแต่ละที่ก็ไม่ได้จำกัดแค่ในห้างสรรพสินค้า หรือศูนย์การค้าเหมือนแบรนด์อื่นๆ แต่เป็นพื้นที่ไหนก็ได้ที่มีคนเยอะๆ ริมถนน หรือคิวรถตู้ก็ได้ ถ้ามีทราฟฟิกมากเพียงพอ ร้านค้าจะมีพื้นที่ตั้งแต่ 80-200 ตารางเมตร ขึ้นอยู่กับพื้นที่ ตอนนี้ MUMUSO มีทราฟิกคนเข้าร้านเฉลี่ย 2,000 คน/วัน/สาขา มียอดขายเฉลี่ย 100,000 บาท/วัน/สาขา สาขาบางแสนที่อยู่ห้างแหลมทองเป็นสาขาที่ขายดีที่สุด

วิเคราะห์จุดแข็งของ MUMUSO

  • ไลฟ์สไตล์แบรนด์ล่าสุดที่บุกไทย
  • ยืนยันตัวตนชัดเจนว่ามาจากจีน ชูคอนเซ็ปต์สินค้าสไตล์เกาหลี เพื่อสร้างแบรนด์ให้ซอฟท์ลง
  •  กลยุทธ์ป่าล้อมเมืองเริ่มจากต่างจังหวัด พร้อมเข้าเมืองกรุง
  •  อุดจุดอ่อนความจีน ด้วยความเกาหลี
  •  ร้านค้ารูปแบบของไลฟ์ไสตล์ช้อป มีจำหน่ายสินค้ามากกว่า 3,000 รายการ
  • เทรนด์ของผู้บริโภคชื่นชอบร้านค้าแบบนี้รู้สึกว่าเป็น One Stop Shopping

“แผนการขยายสาขา ตั้งเป้าขยายเพิ่มอีก 20 สาขาภายในปี 2019 แบ่งเป็นบริหารเอง 10 สาขา และแฟรนไชส์ 10 สาขา และคาดว่าจะครบ 100 สาขาใน 5 ปี แบ่งสัดส่วนเป็นบริหารเอง 50% และแฟรนไชส์ 50% สำหรับความท้าทายในการทำตลาดนี้บอกตามตรงว่า ตลาดนี้เติบโตเร็ว แต่เทรนด์ก็ไปเร็ว ต้องมีการพัฒนาสินค้าอยุ่ตลอด เอาสินค้าใหม่ๆ เข้ามาหมุนเวียนเหมือน Fast Fashion และมีสินค้าพิเศษสร้างความตื่นเต้น และต้องมีการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ทันสมัยอยู่ตลอด ให้เข้าถึงผู้บริโภค รวมถึงการทำ CRM เพื่อเอาบิ๊กดาต้ามาสื่อสารกับลูกค้า ทำให้สร้างลอยัลตี้กับลูกค้าด้วย”


ข้อมูลธุรกิจ

ชื่อธุรกิจ : มูมูโซ (MUMUSO)

ประเภทธุรกิจ : ธุรกิจแฟรนไชส์สินค้านำเข้าจากเกาหลี

โทร : 063-264-5456

fb : Mumuso Thailand