2 นักธุรกิจต่างขั้ว พลิกวิกฤติโควิด-19 เป็นโอกาสสู่เจ้าของแฟรนไชส์ “เตี๋ยวตุ๋นขุนพล” ตั้งเป้า 400 สาขาทั่วไทย

ทุกวิกฤติย่อมมีโอกาส 2 หญิงแกร่งนักธุรกิจต่างขั้ว “กวิตา เอกธนวันต์” เจ้าของธุรกิจผลิต นำเข้า จัดจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป “ศิริลัคณา เอียดวิจิตร์” ผู้บริหาร บริษัทเจเจซี กรุ๊ป จำกัด บริษัทที่ปรึกษาด้านพีอาร์ การตลาดสร้างแบรนด์ และสื่อโฆษณา พลิกวิกฤติโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ สู่โอกาสใหม่ในการต่อยอดธุรกิจ จับมือเดินหน้าลุยเปิด “เตี๋ยวตุ๋นขุนพลแฟรนไชส์” แฟรนไชส์ใหม่ไฟแรง สร้างรายได้กระจายสู่ชุมชน ที่ตอบโจทย์ความครบครันและการตลาดแบบจัดเต็ม พร้อมสิทธิพิเศษด้านแหล่งเงินทุน และการจัดหาทำเลที่ตั้ง โดยความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ที่สนใจเข้าร่วมธุรกิจแฟรนไชส์ ครบจบที่เดียว! ตั้งเป้า 400 สาขาทั่วประเทศ ภายในปี 2565

“กวิตา เอกธนวันต์” ผู้ก่อตั้งแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นขุนพล เผยถึงจุดเริ่มต้นของการผันตัวจากเจ้าของธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป สู่เจ้าของแบรนด์ก๋วยเตี๋ยว “แบรนด์เตี๋ยวตุ๋นขุนพลเกิดมาพร้อมๆ กับสถานการณ์โควิด-19 ด้วยธุรกิจเดิมที่ทำซึ่งเป็นธุรกิจผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ได้รับผลกระทบเกือบ100% ก็เลยมองหาธุรกิจใหม่ที่จะมาช่วยซัพพอร์ตตรงนี้ จึงมาปิ๊งไอเดียธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวเพราะค่อนข้างใกล้ตัว และเข้าถึงง่าย”

โดยมีหัวใจหลัก คือ รสชาติ วัตถุดิบ และการบริการ พร้อมชูไฮไลท์เด็ด “เมนูตุ๋น” ที่เป็นเอกลักษณ์ คาดหวังสู่การเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวแถวหน้าของเมืองไทย “ถ้าเราเปรียบตลาดอาหารเป็นสนามรบ เราก็อยากเป็นขุนพล อยากเป็นสุดยอดนักรบที่อยู่แถวหน้า มีความเชี่ยวชาญ โดดเด่น แตกต่าง และไม่เป็นสองรองใคร จึงเป็นที่มาของร้านเตี๋ยวตุ๋นขุนพล โดยมี 3 หัวใจหลัก คือ รสชาติของอาหาร เรามั่นใจว่ารสชาติของเราไม่เป็นรองใคร เพราะกว่าจะลงตัวได้ในแต่ละเมนูเราใช้เวลาคิดค้นค่อนข้างนานเพื่อให้ได้สูตรที่อร่อย กลมกล่อม และถูกปากลูกค้ามากที่สุด โดยเฉพาะเมนูตุ๋น ทั้งหมูตุ๋น เนื้อตุ๋น ไก่ตุ๋น ที่เป็นซิกเนเจอร์ ลูกค้าจะฟีดแบคมาเยอะมากว่าใช้ส่วนไหนตุ๋น ทำไมถึงได้นุ่มขนาดนี้ ทานเข้าไปแล้วแทบไม่ต้องเคี้ยว เหมือนจะละลายในปากเลย วัตถุดิบ ที่ผ่านการคัดเลือกมาเยอะมากเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุด เพราะอย่างเครื่องเทศ เป็นหัวใจหลักของน้ำซุปเรา ทำให้มีความหอมกลมกล่อม เมื่อนำไปตุ๋นเนื้อสัตว์ ก็จะยิ่งเพิ่มความหอม แบบเปิดประตูเข้ามาก็ได้กลิ่นแล้ว ส่วน การบริการ เราให้ความสำคัญเรื่องนี้มาก พนักงานทุกคนจะต้องเรียบร้อยทั้งเสื้อผ้าหน้าผม เล็บจะต้องสั้นและสะอาด เวลาลูกค้าเข้ามาในร้านต้องรู้จักที่จะทักทาย แนะนำเมนูต่างๆ ได้เป็นอย่างดี ในทุกสัปดาห์จะมีการเทรนด์พนักงาน และประชุมเพื่อเช็คฟีดแบคที่ได้รับจากลูกค้า เพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างรวดเร็ว”

จากความตั้งใจทุ่มเทเพื่อเอาชนะวิกฤติโควิด-19 ในวันนั้น สู่บริบทใหม่ที่ไม่ใช่แค่เพียงร้านก๋วยเตี๋ยวร้านโปรดของคนกรุงเทพอีกต่อไป เมื่อ “กวิตา เอกธนวันต์” ได้ผนึกกำลังกับ “ศิริลัคณา เอียดวิจิตร์” ผู้บริหาร บริษัทเจเจซี กรุ๊ป จำกัด บริษัทด้านที่ปรึกษาด้านพีอาร์ การตลาดสร้างแบรนด์ และสื่อโฆษณาชั้นนำ เพื่อส่งต่อความสำเร็จให้กับผู้ที่มีฝันเดียวกันคือรักในธุรกิจอาหาร ภายใต้โมเดลธุรกิจแฟรนไชส์ที่ครบวงจร “เตี๋ยวตุ๋นขุนพลแฟรนไชส์”

“มีลูกค้าถามเข้ามาเยอะมากทั้งเวลาที่เจอหน้า แล้วก็อินบอกซ์เข้ามาในเพจว่าจะเปิดแฟรนไชส์มั้ย จึงเป็นตัวจุดประกายว่าเราคงพร้อมแล้วล่ะที่จะเปิดธุรกิจแฟรนไชส์ ก็เลยมาคิดต่อว่าจะทำยังไงให้คนรู้จักแบรนด์เตี๋ยวตุ๋นขุนพลมากขึ้น จึงได้มาคุยกับคุณศิริลัคณา ซึ่งเป็นนักการตลาดสร้างแบรนด์มาแล้วมากมาย ยิ่งทำให้มั่นใจ และมีไอเดียที่จะต่อยอดธุรกิจร่วมกัน คุณศิริลัคณาถนัดเรื่องพีอาร์ การตลาด ส่วนเราถนัดในเรื่องของร้าน รสชาติ อาหาร การบริการทุกอย่าง พอมาร่วมมือกัน ก็จะยิ่งทำให้แฟรนไชส์ของเราเติบโต และแตกต่างจากแบรนด์อื่นๆ”

ด้าน “ศิริลัคณา เอียดวิจิตร์” ผู้บริหาร บริษัทเจเจซี กรุ๊ป จำกัด และอีกหนึ่งบทบาทใหม่ในฐานะผู้บริหารด้านการตลาดและธุรกิจแฟรนไชส์ “เตี๋ยวตุ๋นขุนพลแฟรนไชส์” เผยถึงความร่วมมือสู่ธุรกิจใหม่ และทิศทางการตลาด ที่พร้อมจัดเต็มทุกช่องทาง มั่นใจพาร์ทเนอร์ที่ร่วมธุรกิจจะได้รับความคุ้มค่า แตกต่างกว่าแฟรนไชส์แบรนด์อื่น ตั้งเป้า 400 สาขาทั่วประเทศในปี 2565

“เตี๋ยวตุ๋นขุนพลเป็นแบรนด์ที่มีความโดดเด่น แตกต่างจากร้านก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ ส่วนเรื่องรสชาติ และการบริการ ก็ได้รับการยอมรับจากลูกค้ามาตลอด จากประสบการณ์ที่ทำงานด้านพีอาร์ การตลาด สร้างแบรนด์ มา 13 ปี ของ บริษัท เจเจซี กรุ๊ป จำกัด เรามั่นใจมากว่าสิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์ ที่จะสร้างโอกาสในการเติบโต ทางคุณกวิตา มีศักยภาพด้านการบริหารจัดการร้าน การดูแลเรื่องอาหาร ควบคุมรสชาติ ส่วนทางเรามีศักยภาพด้านการทำแบรนด์ดิ้ง พีอาร์ การตลาด เมื่อได้มาจับมือร่วมกันจะช่วยให้ธุรกิจแฟรนไชส์ มีการเติบโต และตอบโจทย์ผู้ที่อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง โดยตั้งเป้าขยายสาขาประมาณ 400 สาขา ภายในปี2565”

นอกจากนั้นผู้บริหารด้านการตลาด เผยต่ออีกว่า “เตี๋ยวตุ๋นขุนพล เป็นแฟรนไชส์ที่เรียกว่าครบวงจรที่สุด มีการตลาดแบบจัดเต็ม ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เรามีการสอนเรื่องของการยิงแอดโฆษณา สอนเรื่องของคอนเทนส์ เรื่องของการทำแบรนด์ดิ่งต่างๆ มีการทำพีอาร์ให้กับทุกสาขา และยังมีสูตรลับเฉพาะของทางแบรนด์ มาพร้อมเมนูที่หลากหลาย อาทิ หม้อไฟ ก๋วยเตี๋ยว ข้าว ของทานเล่น เครื่องดื่ม ขนมหวาน เรามีสูตรให้หมดเลย นอกจากนั้นยังมีทีมที่คอยให้คำแนะนำ ปรึกษา ตลอดการเป็นพาร์ทเนอร์ มีระบบการเทรนด์พนักงาน การควบคุมคุณภาพให้กับทุกสาขา เพื่อที่จะได้มีมาตรฐานเดียวกัน มีการควบคุมระยะห่างของสาขาไม่ให้เปิดใกล้กันเกินไป ที่สำคัญเตี๋ยวตุ๋นแฟรนไชส์ไม่มีการเก็บค่าบริการรายปีด้วย ในส่วนของเงินทุน เรามีพันธมิตรให้คำปรึกษาด้านแหล่งเงินทุน สินเชื่อ และทำเลที่ตั้ง ไม่ว่าจะเป็นปั๊มน้ำมัน คอมมูนิตี้มอล์ ห้างสรรพสินค้า เราก็มีพันธมิตรมากมายที่คอยอำนวยความสะดวกให้อย่างครบครัน ในสถานการณ์แบบนี้ ธุรกิจหลายธุรกิจได้รับผลกระทบแต่ธุรกิจที่ยังคงดำเนินไปได้ ก็คือธุรกิจอาหาร วันนี้ เตี๋ยวตุ๋นขุนพลแฟรนไชส์ เปิดโอกาสใหม่ๆ สำหรับคุณแล้ว ถ้าคุณสนใจที่จะเป็นพาร์ทเนอร์กับเรา สามารถติดต่อเข้ามาได้เลยค่ะ”

เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส ก้าวสู่ความสำเร็จไปพร้อมกัน กับ เตี๋ยวตุ๋นขุนพลแฟรนไชส์ ธุรกิจแฟรนไชส์ไฟแรง เปิดรับแฟรนไชส์แล้ววันนี้ทั่วประเทศ สนใจติดต่อได้ที่ โทร.065-395-5151, Line : @kp159 (มี@นำหน้า) หรือ Facebook : เตี๋ยวตุ๋นขุนพล แฟรนไชส์