“ifarm”ศูนย์เรียนรู้ เน้นสร้างผลิตผลทางความคิดต่อยอดจากผลผลิตการเกษตร

“ifarm”ศูนย์เรียนรู้ เน้นสร้างผลิตผลทางความคิดต่อยอดจากผลผลิตการเกษตร
     แต่ไหนแต่ไรมาบ้านเมืองของเรานั้นเป็นเมืองแห่งเกษตรกรรม ดำรงชีพด้วยการเพาะปลูก เลี้ยงสัตว์ แต่ด้วยวิถีชีวิตสมัยใหม่ทำให้เราห่างไกลวิถีชีวิตทางธรรมชาติมานาน นี่จึงกลายเป็นสิ่งที่กลุ่มคนเมืองจำนวนไม่น้อยยังโหยหา และหลงใหลในวิถีชีวิตแบบเรียบง่าย แต่น่าสนใจของธรรมชาติ จนอยากจะมีฟาร์มในฝันเป็นของตัวเอง จุดนี้เองที่ “ifarm” สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ ของคนเมืองเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
     “Ifarm” ศูนย์การเรียนรู้เชิงเกษตร ที่รวบรวมแหล่งความรู้ด้านการเพาะเห็ด รวมทั้งวิถีการเกษตรทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติไว้อย่างครบถ้วน ภายใต้การบริหารงานของ “อ.คณวัฒน์ ธีรนิธิวัฒน์” ที่ถูกออกแบบมา ไม่ใช่แค่สอนการทำเกษตรเพื่อขายผลผลิตเท่านั้น แต่จุดเด่นของ “Ifarm” อยู่ที่การต่อยอดผลผลิตให้กลายเป็นสินค้าในรูปแบบอื่นๆ ที่จะสามารถสร้างมูลค่าให้กับตนเอง และผลักดันให้เกิดความคิดสร้างสรรค์บนวิถีการเกษตรอีกด้วย
อ.คณวัฒน์
     อ.คณวัฒน์เล่าว่า “เนื่องจากเราเป็นคนที่ชอบธรรมชาติ และมองว่าอยากให้มันเป็นอาชีพได้ด้วย รวมทั้งอยากสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ ที่ไม่อยากทำงานประจำ และมีกำลังด้านการเงิน จนสามารถทำธุรกิจเป็นของตัวเองได้ จึงได้มีการเปิดอบรมเพื่อเรียนรู้ในหลายหลักสูตรด้วยกัน โดยจะเน้นในเรื่องของการเพาะเห็ดต่างๆ ซึ่งผู้ที่มาเรียนนั้น ไม่จำเป็นต้องเป็นเกษตรกร หรือมีความรู้ด้านการเกษตรมาก่อน และคนส่วนใหญ่ที่มาเรียน ก็มักจะกลับไปทำเป็นฟาร์มในแบบฉบับของตัวเอง
“ผมอยากให้คนที่มาเรียนรู้กับ “ifarm” เป็นมากกว่าเกษตรกร คือเป็นครีเอทีฟที่มีความคิดสร้างสรรค์ด้านการเกษตร สามารถต่อยอดและพัฒนาสินค้า ให้มากกว่าการเรียนเพื่อออกมาขายผักตามตลาด”
     ซึ่งในการเรียนรู้ที่ “ifarm” จะต่างจากการเรียนภาคเกษตรกรรมทั่วๆ ไป เนื่องจากเราเน้นในเรื่องของการตลาด เพราะเราคิดว่าการเพาะปลูกนั้นได้ผลผลิต แต่ถ้าขายไม่ได้ก็คงเปล่าประโยชน์ ดังนั้น “ifarm” จึงเน้นในเรื่องของการให้ไอเดียเพื่อไปต่อยอดด้านการตลาด เช่น การทำฟาร์มเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว การแปรรูปสินค้าทางการเกษตร ฯลฯ อาจเรียกได้ว่าเรียนไปเพื่อเป็น “ครีเอทีฟ” มากกว่าจะเป็น “เกษตรกร”
     ในแต่ละคอร์สจะมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆเป็นผู้อบรมให้ เนื่องจาก “ifarm” เน้นในเรื่องของการเรียนรู้และปฏิบัติได้จริง จึงเข้าใจดีว่าผู้มาเรียนที่ไม่มีพื้นฐานด้านการเกษตรมาก่อน อาจจะยังไม่เข้าใจหรือยังทำไม่เป็น ซึ่งถึงแม้จะครบจำนวนวันในการอบรมแล้ว ผู้เรียนยังสามารถเข้ามาเรียนซ้ำได้อีกแบบไม่จำกัด จนกว่าจะทำเป็น”ทั้งนี้ อ.คณวัฒน์ยังแนะแนวทางรายได้ให้กับผู้ที่สนใจด้วยว่า “สำหรับผู้ที่อยากจะลองเพาะเห็ดเพื่อทำเป็นธุรกิจ อาจลองลงทุนในแบบเล็กๆก่อน โดยสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้ เพราะการเกษตรจะลงมือทำเป็นช่วงๆ ซึ่งจะมีเวลาว่างให้ทำอย่างอื่นได้อีก
โดยอาจใช้เงินลงทุนสักหมื่นต้นๆถึงสองหมื่น และมีพื้นที่ในการทำโรงเรือน ประมาณ 2×4 เมตร ก็สามารถเพาะเห็ดขายได้แล้ว แต่หากจะทำครบวงจรอาจต้องใช้พื้นที่ประมาณ 2 ไร่ สำหรับกำไรในการเพาะเห็ดนั้นจะอยู่ที่ 30-40% แต่สำหรับเห็ดถั่งเช่า ที่มีคุณสมบัติเป็นยาสมุนไพรจะมีราคาสูงมาก คือกิโลกรัมละ 70,000-100,000 บาทเลยทีเดียว จึงทำให้ถั่งเช่ากำลังเป็นที่นิยมในตลาดอยู่ในตอนนี้ด้วย
     “สำหรับข้อดีในการเพาะเห็ดขายนั้นก็คือ เห็ดสามารถทำตลาดได้ง่ายกว่าผัก ลงทุนน้อย และเป็นที่ต้องการของตลาด อยู่เสมอ เนื่องจากตลาดสุขภาพที่โตขึ้น ทำให้คนทานเนื้อสัตว์น้อยลง แล้วหันมาบริโภคเห็ดแทน เพราะให้โปรตีนสูง เห็ดจึงเป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะช่วงเทศกาลกินเจ นอกจากนี้ เห็ดยังโตเร็วจึงมีรอบการทำเงินที่สั้นกว่า รองๆ จากถั่วงอก แต่ข้อจำกัดของเห็ดสดต้องขายให้ได้ภายใน 2 วัน เพราะหลังจากนั้นราคาจะตก เราจึงต้องคิดหาทางในการแปรรูปนั่นเอง” อ.คณวัฒน์กล่าวปิดท้ายทาง “ifarm” ยังมีส่วนที่เป็นผลิตภัณฑ์การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตรต่างๆ อาทิเช่น สบู่ ยาสระผม แคปซูล และสินค้าออแกนิกส์อื่นๆ อีกมากมายเป็นตัวอย่างให้แก่ผู้ที่มาเรียนได้เห็นและมีแนวคิดในการต่อยอดนอกจากนี้ยังมีในส่วนของวัสดุอุปกรณ์การเกษตรครบวงจรสำหรับผู้ที่ต้องการลงทุน และสำหรับผู้ที่เข้ามาอบรมยังได้รับสิทธิพิเศษในการซื้อสินค้าของทาง “ifarm” อีกด้วย

ขอขอบคุณ : อ.คณวัฒน์ ธีรนิธิวัฒน์  
ศูนย์การเรียนรู้ Ifarm โทร.081-555-1297                                                                                                               www.ifarm.co.thwww.facebook.com/ifarmLIVE