คัมภีร์นักธุรกิจมือใหม่เผยเคล็ดลับ “ขายของในห้างอย่างไรให้รวย” โดย ดร.สมพล รัชตพิมลชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการตลาด ศูนย์การค้าอยุธยาซิตี้พาร์ค

……….ผู้เขียนเรื่องนี้จากการทำในสิ่งที่รักและมี Passion หลงใหลในสิ่งที่ทำ เขียนจากประสบการณ์จริงในการบริหารศูนย์การค้ามากว่า 20 ปี ถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือแบบเข้าใจง่ายๆเพื่อชาว SME โดยเฉพาะ ดร.สมพล รัชตพิมลชัยหรือ ฉายา ดร.สมะ คนทำห้างจากเด็กวิทย์ต่อสู้พลิกผันดิ้นรนทุกรูปแบบไขว่คว้าหาความรู้เพื่อสร้างเสริมประสบการณ์แบบต้องรู้จริง เข้าใจจริง สู่การเป็นผู้บริหารที่คร่ำหวอดในวงการอสังหาริมทรัพย์ด้านการพัฒนาธุรกิจ การตลาดและการขายจากบริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ทั้งตลาดที่อยู่อาศัยคอนโดมิเนียมโดยเฉพาะธุรกิจเชิงพาณิชย์ ศูนย์การค้ากว่า 30 ปี ผู้ปั้นศูนย์การค้าอยุธยาพาร์คตั้งแต่การปรับรูปแบบการเสาะแสวงหาน้ำเสนอพื้นที่เช่าให้แก่ Brand Internationalและ Brand ไทย  แบบว่าต้องขอร้องทุกรูปแบบให้มาเปิดร้านผลักดัน ทุกวิธีทางด้วยความคิดทางการตลาดแบบปฏิบัติจริงดูแลเจ้าของร้านเป็นอย่างดีตั้งแต่ระดับแม่ค้ายัน Brand ชั้นนำ สร้างสรรค์กิจกรรม Campaign สร้างรายได้ให้แก่ศูนย์การค้าและดึงดูดผู้มาใช้บริการ Re-Brandอยุธยาพาร์ค ให้เป็น อยุธยาซิตี้พาร์ค ศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุดบนถนนสายเอเชียLandmark แห่งจังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับผู้ที่อยากเป็นเจ้าของร้านขายของในห้าง  เจ้าของร้าน ผู้บริหาร สินค้าและบริการทั่วไป โดยเฉพาะในศูนย์การค้ารวมทั้งนักลงทุน นักพัฒนา และผู้ที่สนใจในธุรกิจอสัหาริมทรัพย์เชิงพานิชย์ แนวค้าปลีก เนื้อหาในหนังสือจะบอกเล่าให้ SME พิจารณาว่าตนเองควรจัดทำธุรกิจหรือขายของในห้างมีเหตุผลอย่างไร แล้วถ้าจะขายของทำไมห้างต้องเป็นตัวเลือกต้นๆในการเข้ามาขายของในห้างและห้างที่ดีจะต้องมีปัจจัยใดบ้างที่จะเป็นการพิจารณาตั้งแต่ทำเลที่ตั้งห้างกำลังซื้อลูกค้ามาจากไหน ขนาดรูปแบบ นโยบายและการบริการหลังการขาย ขายสินค้าต้องพิจารณาทำเลหรือสิ่งที่เกิดขึ้นจริง  พร้อมตัวอย่างประเภทธุรกิจยอดนิยม ประสบการณ์ในการเลือก เตรียมตัวก่อนเข้าห้างนำเสนออย่างไร ทำเลขายของในห้างแบบรู้จริง เรื่องที่จำเป็นต้องรู้ในส่วนสัญญา และห้างต้องทำกิจกรรมการตลาดจัด Event เพื่อดึงดูดลูกค้าให้มาซื้อและเจ้าของร้านจะต้องทำอย่างไรตั้งแต่การบริการ การจัดทำกิจกรรมการตลาด เพื่อให้ร้านค้าสามารถขายสินค้าหรือบริการแบบ…รวย…รวย…รวย ผู้เขียนมั่นใจว่าถ้าได้อ่านหนังสือเล่มนี้SEM  เจ้าของร้านจะมีความเข้าใจมากขึ้นในการที่จะคิดขายของในห้างเลือกตำแหน่งร้าน แง่คิดในการนำไปปฏิบัติสำหรับขายของในห้าง แบบคนรู้จริง โดยหนังสือจะเป็นแนวทางเพื่อให้ผู้อ่านได้ผลลัพธ์แบบ รวย…รวย…รวย ต่อด้วย ตอบโจทย์SME ในเรื่อง รู้จักตนเอง สร้างธุรกิจ แบบรวยๆ รู้จักตนเองขายอะไรดี…ขายอย่างไรยอดขายปัง คำถามยอดฮิตที่ถูกยิงระรัวอยู่เสมอ “ขายอะไรทำอะไรกำไรดี”โดยเฉพาะพ่อค้า แม่ขายรายใหม่ที่ไม่ว่าจะขายอะไร ครั้นพอจบออกมามีงานทำมีเงินเก็บแล้วอยากไปแตะขอบฟ้า ด้วยการนำเงินเก็บมาลงทุนเปิดร้านขาย เพราะเบื่อกับการใช้ชีวิตแบบลูกจ้างไปวันๆ ผมมักจะตอบตรงๆ บอกเลยครับว่า “ยากมาก”เพราะการขายสินค้าอะไรนั้นจำเป็นต้องมีปัจจัยหลายอย่างมาพิจารณา เพื่อให้ผลลัพธ์ที่ลงตัวและก่อนที่จะหาคำตอบมาบอกว่า “ควรขายอะไรดีนั้น”คงต้องสอบประวัติกันเสียก่อนว่า ชอบอะไรและทำธุรกิจมาก่อนหรือยัง ซึ่งคำตอบที่ได้มาส่วนใหญ่ยัง“ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร” ไม่เคยขายของมาก่อน จุดนี้ละครับถือเป็น “จุดบอด” เพราะคิดจะลงสนามนักค้าขายแล้ว แต่กลับ “ไม่เข้าใจตัวเอง”แถมไม่มี “ความรู้” การค้าขายมาก่อนเลย เห็นทีธุรกิจจะไป “รอด” ยาก สิ่งเหล่านี้ต้องทบทวนความคิด เพราะการขายสินค้านั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะถ้าพลาดมาแล้วบอกได้คำเดียวว่า มีแต่เจ๊งกับเจ๊ง และอาจหมดตัวเลยก็ว่าได้ เพราะเงินก้อนที่มีอยู่นั้นอาจเป็นก้อนเดียวในชีวิตเขา คุณควรศึกษาหาความรู้ หาสิ่งที่ตัวเองชอบก่อน รู้ว่าตลาดนั้นมีใครแข่งกับคุณอยู่ก่อนแล้วบ้าง ซึ่งปกติมันมีอยู่แล้วแหละ (ถ้าไม่มีคุณขายดีสักพักเดี๋ยวก็มี ^^) ถ้ามีคู่แข่งแล้ว ให้สังเกตดูว่าจุดอ่อน จุดแข็งเป็นอย่างไร เพื่อหาจุดต่างของเราให้ Strong สุดๆ แค่นี้ยังไม่พอนะครับ ยังต้อง “มองล่วงหน้า” ไปถึงอนาคต ว่าจะมีเจ้าใหญ่ในตลาดที่ทุนสูงมากๆ มาทำเลียนแบบขายราคาเดียวหรือย่านเดียวกันหรือเปล่า เอาให้ชัวร์ว่าสินค้าของคุณ ตรงความต้องการลูกค้าหรือไม่
จริงๆ การทำ Market Research หรือMarket Survey ก่อนทุกครั้งที่จะขายอะไรซักอย่าง ฟังดูเหมือนยากและวุ่นวายสำหรับSMEs ถูกไหมครับ แต่จริงๆไม่ยากเลย แค่สังเกตและสอบถามพฤติกรรมผู้คนถามเยอะๆ ถามคนรอบตัว ถามลูกค้า เดินไปสังเกตร้านคู่แข่ง เนี่ยก็ถือเป็นMarket Survey สไตล์ SMEs ที่เราๆ สามารถทำได้ นอกจากนี้สินค้าที่คุณจะขายตามแฟชั่นหรือเปล่า มันเป็นเรื่องที่ดีนะครับที่จะขายตามเทรนด์แต่สินค้าแฟชั่น จุดบอดคือ ดังเพียงชั่ววูบ ใช่ครับ!! ดังเพียงชั่ววูบดังเร็วเว่อร์แต่พอดับ ก็ตกพรวดพราด อยู่ที่จังหวะเวลา เข้าเร็วก็บูมเร็ว แต่ถ้าสต๊อกของเยอะเกินไป ปล่อยออกไม่ทันกระแสดับก่อน เจ๊งครับ แต่หากคุณมีความรู้เรื่องที่จะขายอยู่บ้าง มีความชอบในสิ่งที่ทำมีความชัดเจนกับธุรกิจจะแตกต่างไปจากข้างต้น ซึ่งคนประเภทนี้ ผมเชื่อมั่นว่า เขาจะสามารถเป็นเจ้าของธุรกิจเป็นพ่อค้าแม่ขายได้ไม่ยาก แต่จะทำธุรกิจอะไรดีนั้น ผมมี 2 ทางเลือกให้กับกลุ่มนี้ 1.สร้างธุรกิจของตัวเอง เปิดร้านหรือเปิดแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา ซึ่งทางเลือกนี้เหมาะกับผู้ที่มีทุนอยู่บ้างแต่การจะเปิดร้านเป็นชื่อของตัวเองได้นั้น จำเป็นต้องถามตัวเองก่อนว่า “พร้อม”ที่จะเป็นนายตัวเองรวมถึง “รักและชอบ” ในธุรกิจที่จะทำหรือยังมีความชำนาญพร้อมจะเรียนรู้และมีความอดทนพร้อมกับเผชิญกับทุกสภาวะได้ไหม คุณควรหาเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแบรนด์สินค้านั้นให้เจอขายอะไร ขายให้ใคร ขายอย่างไร อะไรคือความโดดเด่น แตกต่างจากร้านทั่วไป เพราะหากไม่มีอะไรแตกต่างไปจากร้านค้าในระดับเดียวกันแล้วบอกได้เลยครับว่า สุดท้ายก็อาจจะขายไม่ออก หรือบางทีอาจต้องมีการ ลด แลก แจก แถม จนอาจไม่เหลือกำไรก็ได้คนซื้ออาจได้ประโยชน์ แต่คนขายนี่สิ..อาจต้องตีอกชกหัว ตัวเองภายหลังได้ดังนั้น อย่าคิดแค่ว่า “ใครขายดี” แล้วเฮขายกันตามเขา เพราะสุดท้ายอาจเจ็บตัวได้ 2.ซื้อแฟรนไชส์หรือแบนด์ดัง ปัจจุบันมีทั้งแบบ International Brand หรือ Thai Brand ซึ่งในส่วนนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่มีเงินทุนมากสักหน่อยโดยสินค้าก็จะมีทั้งแบบที่เป็นอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องสำอาง มีให้เลือกหลากหลายแบบช่องทางการจำหน่ายพื้นที่ขายมีให้เลือกได้ตั้งแต่ พื้นที่เล็กๆ มีรถเข็น ไปจนถึงร้านขนาดใหญ่ เช่นร้านอาหารแบบRestaurant  ซึ่งจะทำให้นักค้ารายใหม่ไม่ต้องกังวลใจอะไรมากนัก เพราะการซื้อแฟรนไชส์จะมีการวางระบบ การจัดการและการทำการตลาดพ่วงมาด้วย หรือแม้แต่การสร้างยอดขาย อย่างดีมาให้เราด้วย แถมยังมีกลุ่มเป้าหมายไว้ให้ด้วยเช่นเดียวกับการหาสถานที่ขาย และการต่อรองราคาค่าเช่าที่ การตกแต่ง ทางบริษัทผู้ขายแฟรนไชส์จะจัดการให้เราครบทุกขั้นตอน เรียกได้ว่า “แค่มีเงิน”ทุกอย่างก็เรียบร้อ แต่ถึงอย่างไรซะ ถ้าคิดจะดำเนินธุรกิจในรูปแบบแฟรนไชส์จำเป็นอย่างยิ่ง ที่ต้องไปเรียนรู้ระบบอย่างเข้าใจ และรู้กระบวนการผลิตไปจนถึงการขายตามรูปแบบที่ทางแบรนด์กำหนดไว้ด้วยเพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐาน และดำเนินงานตามแผนธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้นั้นเองครับคราวนี้ เมื่อเรารู้ว่าจะขายอะไร  จะขายแบบไหน ขายให้ใคร ก็มาถึ ง “ขายที่ไหน”  กันบ้าง มามองดูสถานที่ขายกันต่อเลยครับ หากเป็นการขายในแบบธุรกิจแฟนไชส์ ก็ไม่ต้องกังวลใจมากนักเพราะอย่างที่บอกครับ ทางแฟรนไชส์จะเป็นผู้จัดหาสถานที่ให้เราเอง แต่หากเป็นการ “สร้างแบรนด์เอง”อันนี้ต้องทำการบ้านหนักหน่อย เราต้องพิจารณาก่อนว่า “เงินทุนมีมากน้อยแค่ไหน” เพราะถือเป็นสายป่านของธุรกิจเลยครับ หากมีเงินทุนมากพอ ก็อาจจะแนะนำให้เปิดในห้างอาจใช้พื้นที่ส่วนกลางของห้าง (Promotion) แต่หากมีเงินน้อยลงมาหน่อยก็อาจจะเลือก “ตลาดนัด” ที่จ่ายเป็นรายวัน เพื่อทดลองขายแบบไม่ต้องลงทุนมาก ข้อดีอีกอย่างหนึ่งคือจะทำให้เรารู้ว่า“สินค้าของเราเหมาะกับลูกค้ากลุ่มใด” มีปริมาณลูกค้าหรือ เสียงตอบรับสินค้ามากน้อยแค่ไหน เพื่อนำมาพัฒนาสินค้าของเราต่อไป ซึ่งจากประสบการณ์โดยตรงของผม ที่ผ่านมานั้นจะพบว่า ร้านค้าที่มีเจ้าของลงมือทำด้วยตัวเองมักจะประสบความสำเร็จ สู้ไม่ถอย เพราะต้องดูแลทุกอย่างสามารถตัดสินใจได้เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นการต่อรองไปจนถึงการปิดการขายได้ด้วยตนเอง หรือแม้แต่ควบคุมคุณภาพ ควบคุมต้นทุน รวมถึงการจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายเรียกว่า “เร็ว” สามารถตัดสินใจได้ทันที แบบนี้รวยกันมาเยอะแล้วเหมือนกัน เช่นเดียวกับแฟรนไชส์ครับยิ่งถ้าเจ้าของธุรกิจเข้ามาควบคุมเอง กำกับเอง ดูแลทุกกระบวนการอย่างใกล้ชิด ก็รุ่งโรจน์ รุ่งเรืองได้เช่นกัน สำนักพิมพ์ P.R.A. MASS เปิดตัวหนังสือ“ขายของในห้าง…อย่างไรให้รวย” โดย “ดร.สมะ” ดร.สมพล รัชตพิมลชัย จะมาเผยเทคนิคเคล็ดลับการบุกลงทุนในห้างสรรพสินค้าทำอย่างไรให้รอด เทคนิคทำการตลาดตรงกลุ่มเป้าหมาย พร้อมเขย่าแบรนด์ให้แจ้งเกิด เคล็ดลับจากประสบการณ์จริงที่พลาดไม่ได้!! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Line : @pramassท, tel : 081-859-3882, fb : PRA MASS, fb : PRAMASSBOOK, website : www.pramass.com