5 Trick ที่จะทำให้ลูกค้า Click & Share ได้ทั้งปี 2019 นี้ มาทำให้ร้านอาหารของคุณเป็น ‘เมนูเด็ดร้านดัง’ กันเถอะ
ในปัจจุบันเศรษฐกิจ สังคมและธรรมชาติเปลี่ยนแปลงไปอย่างสุดขั้ว จากการให้ความร่วมมือพัฒนามาตรฐานการผลิตและการขายจากทั้งภาครัฐและเอกชน ทำให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่หันมาใส่ใจสุขภาพและมีความรู้ด้านโภชนาการมากขึ้น ในปีนี้เจ้าของธุรกิจจะต้องลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงธุรกิจของท่าน โดยใช้ 5 ทริค นี้ เป็นตัวช่วยที่ดีในการดำเนินธุรกิจอย่างปลอดภัย
1.Mind Set
การทำธุรกิจร้านอาหารก็เหมือนการซื้อรถ ต้องมีการเช็คระยะ ตรวจสอบระยะปลอดภัย เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง พนักงานเป็นตัวแปรสำคัญในการรับสารของร้านส่งไปสู่ลูกค้าได้ถูกต้องมากน้อยแค่ไหน การปรับ Mindset ให้ตรงกัน จะช่วยให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุด ที่คุณตั้งใจไว้นั้นกลับไป 100% เปิดใจให้กว้าง พนักงานจะสบายใจในการทำงานมากขึ้นเมื่อเราวางตัวได้อย่างเหมาะสม เจ้าของร้านเองจะต้องอธิบายจุดมุ่งหมายและจุดประสงค์ให้พนักงานเข้าใจอย่างถูกต้องด้วย เพราะฉะนั้นวาทะศิลป์ต้องฝึกเยอะด้วยนะ
2.Personal Branding
ในช่วงแรกของการเปิดร้าน ผู้ประกอบการจะต้องวุ่นอยู่กับระบบการทำงาน ทุกอย่างจะเริ่มลงตัวในช่วง 3 – 5 เดือนแรก หลังจากนั้นจะกลับมากังวลเรื่องการกลับมาซื้อซ้ำของลูกค้า เป็นขั้นตอนของการสร้าง Personal Branding ระยะเวลานี้จะเป็นช่วงที่เหมาะสม เพราะเจ้าของธุรกิจจะเริ่มรู้ตัวแล้วว่า ร้านเราน่าจะมีเอกลักษณ์หรือมีจุดเด่นทางด้านนี้นะ เช่น พนักงานของเราสามารถ Plus Sale ได้ดี ทำให้บรรยากาศร้านเป็นกันเอง หรือรูปแบบร้านสามารถเรียกลูกค้ากลุ่มไหนและลูกค้ากลุ่มนั้นชอบทานอาหารประเภทไหนของทางร้าน เจ้าของร้านจะต้องมาตวงความเป็นไปได้ เพื่อเทียบกับเทรนด์ในปัจจุบันว่าสามารถต่อยอดไปในทิศทางไหนได้บ้าง ลูกค้าจึงจะจดจำเราในภาพนั้นเพื่อบอกปากต่อปากและกลับมาใช้บริการอีกครั้งในที่สุด
3.Social Promotion
การคืนกำไรให้กับสังคมในรูปแบบการตลาด เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ทำให้ภาพลักษณ์ของร้านขยายวงกว้างมากยิ่งขึ้น ดีกว่าการทำโปรโมชั่นแบบที่มีผลตอบรับให้กับทางร้านอย่างเดียว อย่าง การสนับสนุนอาหารกลางวันให้กับโรงเรียนที่อยู่ห่างไกล, ร่วมให้ความรู้ด้านโภชนาการกับสถานที่ราชการ หรือจะเป็นการมีส่วนลดให้กับประเพณีประจำจังหวัด/หน่วยงานราชการต่างๆ ไม่เป็นเพียงการโปรโมทร้านให้คนหลายกลุ่มได้รู้จัก แต่ยังเป็นการนำอาหารของทางร้านไปเสิร์ฟให้กับทุกคนได้รับรู้รสชาติถึงที่ หลังจากนั้นกลุ่มลูกค้าจะตามหาเราเอง
4.Change to Develop
หากตอนนี้ร้านของท่าน ยังเป็นร้านอาหารธรรมดาเหมือนครั้งแรกที่เปิดเมื่อหลายปีที่แล้วล่ะก็ เราอยากให้ท่านหาเวลาว่าง มานั่งมองร้านของตัวเองสักนิด เช็คความเสียหาย ถามตัวเองสิว่า ถ้าเราเป็นลูกค้า
จะพึงพอใจกับการมานั่งทานอาหารร้านนี้มากน้อยแค่ไหน? เชื่อว่าการทำร้านอาหารอาจทำให้ท่านใช้เวลาทั้งหมดไปกับการดูแลบัญชีและลูกน้องที่คอยลาเข้า-ลาออก ถึงเวลาแล้ว ที่เราจะต้องขยับขยายและเปลี่ยนแปลงให้บ้านหลังที่สองนี้ สดใส มีบรรยากาศที่ดีขึ้น
5.Marketing Applications
เจ้าของธุรกิจมักจะกังวลในเรื่องยอดขาย และเกิดคำถามในหัวมากมาย ‘เปิดร้านมาสักพักแล้ว ทำไมลูกค้ายังเงียบอยู่’ ‘จัดโปรโมชั่นก็แล้ว Grand Openning ก็แล้ว’ ความวุ่นวายนี้จะทำให้ท่านเสียเงินไปกับการจ้างนักการตลาด เพื่อจัดการระบบโซเชียลของร้าน เพื่อเรียกลูกค้าได้ดีขึ้น ในทางกลับกัน การยิงบูสต์โพสต์นั้นจะต้องเกิดขึ้นหลังจากมีลูกค้าประจำและมีการแชร์จากแอคเคานต์ของลูกค้าเองด้วยซ้ำ อย่าลืมไปว่า หลายคนจะมองเห็นและรู้จักร้านมากขึ้นก็จริง แต่ไม่มีความน่าเชื่อถือเลย เพราะไม่มีลูกค้ามาใช้บริการจริง จะทำให้ลูกค้าหายไปเร็วกว่าเดิมและเพิ่มเป็นสองเท่าอีกด้วย ดังนั้น วิธีที่จะช่วยให้ร้านของท่านเป็นที่พูดถึงของกลุ่มลูกค้าได้นานที่สุด คือการขายความเป็นตัวของตัวเองให้ดีที่สุด รักษามาตรฐานให้อยู่ระดับที่พอดี พัฒนาร้านอย่างไม่ตึงเครียด บรรยากาศจะพาลูกค้าเข้ามาเองโดยที่เราไม่ต้องออกแรงพยายามจนเหนื่อยล้า
ท่านควรมีแอพพลิเคชั่นแต่งภาพติดสมาร์ทโฟนไว้มากกว่า 3 แอพ คือ foodie, VSCO, PicsArt เพื่อช่วยเพิ่มด้านอารมณ์, บรรยากาศ, สีสันของอาหาร และมุมน่ารักๆ ของร้าน เจ้าของร้านคนไหนที่ไม่มีพื้นฐานทางด้านการถ่ายภาพ ก็อาศัยความรู้สึกแรก ที่เราเห็นอาหารของตัวเองออกมาจากครัว พอได้เห็นว่ามันน่าทาน ก็คือมุมนั้นแหละที่ท่านควรเก็บภาพไว้แบ่งปันลูกเพจกับแคปชั่นที่ไม่เป็นเชิงการขายมากเกินไป
ปัจจุบันผู้บริโภคต่างมีความรู้ด้านโภชนาการมากขึ้น มีความใส่ใจสุขภาพและปรับเปลี่ยนนิสัยการกินได้ง่าย แต่คนไทยก็ยังดำเนินชีวิตด้วยความเรียบง่าย ไม่หวือหวามากเกินไป ผู้ประกอบการจะต้องดำเนินกิจการด้วยความมั่นใจ ธุรกิจ SME ในประเทศไทย เป็น 1 ใน 5 ประเทศที่เติบโตและมีรายได้สูงสุดในเอเชีย ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงร้านของท่านในปี 2019 นี้
จะไม่ทำให้ร้านของท่านขาดทุนแน่นอน
